ชื่อไทย แก้วเจ้าจอม
ชื่ออื่น ๆ -
ชื่อสามัญ Lignum Vitae, Kaeo chao chom
ชื่อวิทยาศาสตร์ Guaiacum officinale L.
วงศ์ ZYGOPHYLLACEAE
นิเวศวิทยา ถิ่นกำเนิดหมู่เกาะเวสต์อินดีส และอเมริกาใต้ นำเข้ามาปลูกในประเทศไทยครั้งแรกในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5
การขยายพันธุ์ เมล็ด การตอนกิ่ง
ลักษณะทั่วไป เป็นไม้ต้นขนาดกลาง สูง 8- 15 เมตร ไม่ผลัดใบ เรือนยอดรูปร่มหรือทรงกลม แผ่กว้างคล้ายจามจุรีหรือพฤกษ์ ทรงพุ่มแน่นทึบ เนื้อไม้แข็ง และมีน้ำหนักมาก เป็นมัน แก่นไม้สีน้ำตาลถึงดำ ทนต่อแรงอัดและน้ำทะเล เป็นต้นไม้โตช้ามาก ลำต้นและกิ่งก้านมักจะคดงอ มีข้อพองนูนออกมาให้เห็นเป็นปุ่ม
เปลือก เปลือกต้นสีเทาอมเขียว และแซมด้วยสีเหลืองอมเทาเป็นปื้น ๆ ทั่วไป เมื่อเปลือกแก่หรือมีอายุมาก จะเปลี่ยนเป็นสีเทาเข้ม และหลุดล่อนออกเป็นแผ่น ๆ
ใบ ใบประกอบแบบขนนกปลายคู่ ออกตรงกันข้าม มีใบย่อย 2 - 3 คู่ ออกตรงกันข้าม ก้านใบยาว 0.5 - 1.5 เซนติเมตร ใบย่อยไม่มีก้านใบ รูปไข่กลับหรือรูปไข่กว้างหรือรูปรีเบี้ยวเล็กน้อย ปลายใบกลมมน โคนใบสอบแคบ ขอบใบเรียบ แผ่นใบหนาเกลี้ยงเป็นมันหลังใบสีเขียวเข้ม ท้องใบสีเขียวอ่อนกว่า มีจุดสีส้มที่โคนก้านใบย่อย แผ่นใบ กว้าง 2.0 - 2.5 เซนติเมตร ยาว 3.0 - 4.5 เซนติเมตร
ดอก สีฟ้าหรือสีน้ำเงินอ่อนหรือสีฟ้าอมม่วง ดอกเดี่ยวออกเป็นกระจุกที่ปลายกิ่ง กระจุกละ 3 - 5 ดอก ก้านดอกยาว 1.0 - 1.5 เซนติเมตร กลีบเลี้ยง 5 กลีบ รูปไข่ โคนกลีบติดกันมีขนอ่อนปกคลุมประปราย กลีบดอก 5 กลีบ รูปรีหรือรูปไข่ กว้าง 0.5 - 0.8 เซนติเมตร ยาว 1 - 1.5 เซนติเมตร เมื่อบานเต็มที่กว้าง 2 - 3 เซนติเมตร เกสรเพศผู้มี 10 อัน ยอดเกสรเพศเมียปลายแยกออกเป็น 5 แฉก
เมล็ด รูปรี สีน้ำตาล เปลือกแข็ง กว้าง 0.3-0.4 เซนติเมตร ยาว 0.7-0.9 เซนติเมตร
ผล ผลแห้งแตก รูปหัวใจ มีครีบ 2 ข้าง สีเหลืองหรือสีส้ม กว้าง 1.0 1.2 เซนติเมตร ยาว 1.5 - 1.8 เซนติเมตร หนึ่งผลมีเมล็ด 1 - 2 เมล็ด
ประโยชน์ เนื้อไม้มีความแข็งและทนทานมาก นิยมนำมาใช้ทำกรอบประกับเพลาเรือเดินทะเลและกรอบประกับเพลาเครื่องจักรในโรงงาน ทำด้ามเครื่องมือ ยางใช้เป็นยาขับเสมหะ ยาระบาย ขับเหงื่อ แก้ข้ออับเสบ ทำยาอมแก้ต่อมทอนซิลอักเสบ และหลอดลมอักเสบ น้ำคั้นจากใบแก้อาการท้องเฟ้อ เปลือกและดอกเป็นยาระบาย
แก้วเจ้าจอม เป็นพันธุ์ไม้ที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงนำเข้ามาจากประเทศอินโดนีเซีย เมื่อครั้งเสด็จประพาส และทรงปลูกไว้ในพระราชอุทยานวังสวนสุนันทา บริเวณด้านหลังเนินพระนาง พระบรมราชานุสรณ์สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ เป็นต้นแรก เพื่อเป็นที่ระลึกถึง เหตุที่ชื่อแก้วเจ้าจอม เพราะเป็นต้นไม้ที่มีลักษณะรูปร่างดอกเหมือนดอกแก้ว แต่กลีบดอกสีฟ้าหรือฟ้าอมม่วง เกสรสีเหลืองเหมือนแก้วแต่กลมและป้อมกว่า ศาสตราจารย์เต็ม สมิตินันท์ จึงตั้งชื่อว่า “แก้วเจ้าจอม”
รวบรวมเรียบเรียงและถ่ายภาพโดย รองศาสตราจารย์ ชนะ วันหนุน
ชื่ออื่น ๆ -
ชื่อสามัญ Lignum Vitae, Kaeo chao chom
ชื่อวิทยาศาสตร์ Guaiacum officinale L.
วงศ์ ZYGOPHYLLACEAE
นิเวศวิทยา ถิ่นกำเนิดหมู่เกาะเวสต์อินดีส และอเมริกาใต้ นำเข้ามาปลูกในประเทศไทยครั้งแรกในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5
การขยายพันธุ์ เมล็ด การตอนกิ่ง
ลักษณะทั่วไป เป็นไม้ต้นขนาดกลาง สูง 8- 15 เมตร ไม่ผลัดใบ เรือนยอดรูปร่มหรือทรงกลม แผ่กว้างคล้ายจามจุรีหรือพฤกษ์ ทรงพุ่มแน่นทึบ เนื้อไม้แข็ง และมีน้ำหนักมาก เป็นมัน แก่นไม้สีน้ำตาลถึงดำ ทนต่อแรงอัดและน้ำทะเล เป็นต้นไม้โตช้ามาก ลำต้นและกิ่งก้านมักจะคดงอ มีข้อพองนูนออกมาให้เห็นเป็นปุ่ม
เปลือก เปลือกต้นสีเทาอมเขียว และแซมด้วยสีเหลืองอมเทาเป็นปื้น ๆ ทั่วไป เมื่อเปลือกแก่หรือมีอายุมาก จะเปลี่ยนเป็นสีเทาเข้ม และหลุดล่อนออกเป็นแผ่น ๆ
ใบ ใบประกอบแบบขนนกปลายคู่ ออกตรงกันข้าม มีใบย่อย 2 - 3 คู่ ออกตรงกันข้าม ก้านใบยาว 0.5 - 1.5 เซนติเมตร ใบย่อยไม่มีก้านใบ รูปไข่กลับหรือรูปไข่กว้างหรือรูปรีเบี้ยวเล็กน้อย ปลายใบกลมมน โคนใบสอบแคบ ขอบใบเรียบ แผ่นใบหนาเกลี้ยงเป็นมันหลังใบสีเขียวเข้ม ท้องใบสีเขียวอ่อนกว่า มีจุดสีส้มที่โคนก้านใบย่อย แผ่นใบ กว้าง 2.0 - 2.5 เซนติเมตร ยาว 3.0 - 4.5 เซนติเมตร
ดอก สีฟ้าหรือสีน้ำเงินอ่อนหรือสีฟ้าอมม่วง ดอกเดี่ยวออกเป็นกระจุกที่ปลายกิ่ง กระจุกละ 3 - 5 ดอก ก้านดอกยาว 1.0 - 1.5 เซนติเมตร กลีบเลี้ยง 5 กลีบ รูปไข่ โคนกลีบติดกันมีขนอ่อนปกคลุมประปราย กลีบดอก 5 กลีบ รูปรีหรือรูปไข่ กว้าง 0.5 - 0.8 เซนติเมตร ยาว 1 - 1.5 เซนติเมตร เมื่อบานเต็มที่กว้าง 2 - 3 เซนติเมตร เกสรเพศผู้มี 10 อัน ยอดเกสรเพศเมียปลายแยกออกเป็น 5 แฉก
เมล็ด รูปรี สีน้ำตาล เปลือกแข็ง กว้าง 0.3-0.4 เซนติเมตร ยาว 0.7-0.9 เซนติเมตร
ผล ผลแห้งแตก รูปหัวใจ มีครีบ 2 ข้าง สีเหลืองหรือสีส้ม กว้าง 1.0 1.2 เซนติเมตร ยาว 1.5 - 1.8 เซนติเมตร หนึ่งผลมีเมล็ด 1 - 2 เมล็ด
ประโยชน์ เนื้อไม้มีความแข็งและทนทานมาก นิยมนำมาใช้ทำกรอบประกับเพลาเรือเดินทะเลและกรอบประกับเพลาเครื่องจักรในโรงงาน ทำด้ามเครื่องมือ ยางใช้เป็นยาขับเสมหะ ยาระบาย ขับเหงื่อ แก้ข้ออับเสบ ทำยาอมแก้ต่อมทอนซิลอักเสบ และหลอดลมอักเสบ น้ำคั้นจากใบแก้อาการท้องเฟ้อ เปลือกและดอกเป็นยาระบาย
แก้วเจ้าจอม เป็นพันธุ์ไม้ที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงนำเข้ามาจากประเทศอินโดนีเซีย เมื่อครั้งเสด็จประพาส และทรงปลูกไว้ในพระราชอุทยานวังสวนสุนันทา บริเวณด้านหลังเนินพระนาง พระบรมราชานุสรณ์สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ เป็นต้นแรก เพื่อเป็นที่ระลึกถึง เหตุที่ชื่อแก้วเจ้าจอม เพราะเป็นต้นไม้ที่มีลักษณะรูปร่างดอกเหมือนดอกแก้ว แต่กลีบดอกสีฟ้าหรือฟ้าอมม่วง เกสรสีเหลืองเหมือนแก้วแต่กลมและป้อมกว่า ศาสตราจารย์เต็ม สมิตินันท์ จึงตั้งชื่อว่า “แก้วเจ้าจอม”
รวบรวมเรียบเรียงและถ่ายภาพโดย รองศาสตราจารย์ ชนะ วันหนุน